ใกล้เข้ามาแล้วซินะ..ช่วงที่คนไทยหลายๆคนตั้งหน้าตั้งตารอกันกับช่วงฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามา ซึ่งเขาลือเขาเล่าอ้างกันว่าฤดูหนาวเป็นฤดูที่โรแมนติกที่สุด ยิ่งการได้สัมผัสหิมะแรกด้วยแล้ว ..หิมะแรกของฉัน ฉันยังคงจำความรู้สึกนั้นได้ดี ว่าแต่ปีนี้ไปไหนดีนะ ว่าแต่ ฮาร์บิน คือที่ไหนวะ
สิ้นปีนี้หลายๆคนคงวางแผนที่จะเดินทางไปสัมผัสหิมะกันอยู่ใช่มั้ยหละ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางไหนก็ตาม ยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น จีน หรือประเทศใดๆในโลกนี้ที่หิมะตกถึง ซึ่งแน่นอนหละไม่ใช่ประเทศไทยของเราแน่ๆ ที่มีเพียงฤดูเดียวคือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนจัด สุดบรรยาย อีกทั้งยังอยากไปชมบรรยากาศการแข่งขันการแกะสลักน้ำแข็งระดับโลก ที่ เมือง ฮาร์บิน พื้นที่ติดกับประเทศรัสเซีย
ว่ากันถึงเมือง ” ฮาร์บิ้น” ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก ท่าบอกว่าเมืองนี้คือเมืองที่จัดเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งหละ พอจะร้องอ๋อกันหรือยัง ก็อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ ว่างานเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งที่เรียกว่างานใหญ่ๆระดับโลกเลย มีจัดอยู่เพียงสองที่คือ ที่นี่และที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าจะจัดที่ไหนก็สวยและดีงามทั้งนั้น ที่สำคัญช่างแกะสลักน้ำแข็งชาวไทย ต่างฝากผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆปี
หลายคนขยาดที่จะไป ฮาร์บิ้น ด้วยเหตุผลที่ว่ามันต้องหนาว แน่นอนหละมันหนาวมาก ตอนที่ช้านไปก็เบาๆเองนะ ติดลบ 40 องศา บอกได้เลยว่าอะไรที่ใช้กันหนาวได้ ขนไปให้หมดเลย…คราวนั้นช้านพลาดมาก เลยต้องซื้อชุดกันหนาวใหม่ยกเซท ทั้งชุดคลุม รองเท้า ถุงมือ ผ้าปิดหู ก็ที่เตรียมไปมันเอาไม่อยู่นี่นา เลยต้องหมดไปอีกหลายร้อยหยวน..อีกทั้งรูปแบบดีไซด์ ก็ไม่สมัยนิยมเอาเสียเลย..
จริงๆแล้วทริปไปฮาร์บิ้น ไม่ได้โหดอย่างที่หลายๆคนกลัวหรอก ยิ่งท่าไปกับทัวร์ด้วยแล้ว อย่าลืมว่าจะซักกี่วัน หรือกี่ชั่วโมงกันเชียวที่เราจะอยู่ที่นี่ โปรแกรมเต็มที่ก็อยู่ฮาร์บิ้น 2 คืนแล้วก็ย้ายหรือบินไปเมืองอื่นแล้ว จะหนาวจริงๆก็ไอ้ตอนที่เข้างานแกะสลักน้ำแข็ง หรือดูการแกะสลักหิมะที่เกาะพระอาทิตย์นั่นแหละ นอกนั้นก็พอทนได้..
จากที่ได้เดินทางไปสัมผัสมา ฮาร์บิ้นเป็นเมืองที่สวย ไม่เหมือนเมืองจีนที่ผ่านตามา นั่นอาจเพราะเมืองนี้อยู่ไม่ไกลจากรัสเซีย เพียง 50 กว่ากิโลเมตร ตึกราบ้านช่องส่วนใหญ่จึงต่างจากมณฑลจีนอื่นๆ ที่นี่ มีสถาปัตยกรรมก่อสร้าง ทั้งโบสคริส ตัวอาคาร หรือแม้แต่บ้านเรือนบางส่วน ก็ออกแนวๆรัสเซียอยู่ไม่น้อย ผู้คนสูงใหญ่ หล่อ สวย กันทั้งนั้น ..ดูแล้วมีสเน่ห์ เหมือนที่พี่ป้าง พูดจริงๆ
นอกจากการได้เห็น ได้สัมผัส งานศิปะของช่างฝีมือนักแกะสลักหิมะและน้ำแข็งแล้ว ก็ขอปรบมือรัวๆ ให้กับการเลือกใช้ไฟ การใช้แสงที่ทำให้แสงสะท้อนจากก้อนน้ำแข็งดูระยิบระยับจับตา การได้มาเยือนที่นี่ในครั้งนี้ สำหรับช้าน…ก็ถือว่าคุ้มแล้ว ซักครั้งในชีวิตก็พอ
ระหว่างทางที่ช้านกำลังจะเดินไปที่รถ เพื่อเดินทางกลับที่พัก ฉันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกอิ่มเอิบกับเทศกาลระดับโลกนี้อย่างอิ่มพุง อิ่มใจ..อู้วววหิมะตก.. เหมือนกับมันจะตกมาเพื่อบอกลาทริปของช้าน
ช้านถอดถุงมืออก และยื่นมืออกไปเพื่อสัมผัสมันเป็นการบอกลา ถึงแม้ในขณะนี้อากาศจะหนาวมาก และตัวช้านเองก็คล้ายจะมีไข้ แต่ทำไมร่างกายช้านกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก…
มึง..มึง ก่อนกลับแวะซื้อแผ่นทำความร้อนที่มึงแปะหลังคืนกูด้วยนะ ของกูหมดพอดี… เออ..เออ…ตะโกนทวงมาแต่ไกลเลยนะมึง ง ง ง ง
เขียนโดย ลุงหนีเที่ยว